เมนู

ตสฺมา หีติคาถาวณฺณนา

[2] ตสฺมา หิ ภูตาติ ทุติยคาถาฯ ตตฺถ ตสฺมาติ การณวจนํฯ ภูตาติ อามนฺตนวจนํฯ นิสาเมถาติ สุณาถฯ สพฺเพติ อนวเสสาฯ กิํ วุตฺตํ โหติ? ยสฺมา ตุมฺเห ทิพฺพฏฺฐานานิ ตตฺถ อุปโภคปริโภคสมฺปทญฺจ ปหาย ธมฺมสฺสวนตฺถํ อิธ สมาคตา, น นฏนจฺจนาทิทสฺสนตฺถํ, ตสฺมา หิ ภูตา นิสาเมถ สพฺเพติฯ อถ วา ‘‘สุมนา ภวนฺตุ, สกฺกจฺจ สุณนฺตู’’ติ วจเนน เตสํ สุมนภาวํ สกฺกจฺจํ โสตุกมฺยตญฺจ ทิสฺวา อาห ‘‘ยสฺมา ตุมฺเห สุมนภาเวน อตฺตสมฺมาปณิธิโยนิโสมนสิการาสยสุทฺธีหิ สกฺกจฺจํ โสตุกมฺยตาย สปฺปุริสูปนิสฺสยปรโตโฆสปทฏฺฐานโต ปโยคสุทฺธีหิ จ ยุตฺตา, ตสฺมา หิ ภูตา นิสาเมถ สพฺเพ’’ติฯ อถ วา ยํ ปุริมคาถาย อนฺเต ‘‘ภาสิต’’นฺติ วุตฺตํ, ตํ การณภาเวน อปทิสนฺโต อาห ‘‘ยสฺมา มม ภาสิตํ นาม อติทุลฺลภํ อฏฺฐกฺขณปริวชฺชิตสฺส ขณสฺส ทุลฺลภตฺตา, อเนกานิสํสญฺจ ปญฺญากรุณาคุเณน ปวตฺตตฺตา, ตญฺจาหํ วตฺตุกาโม ‘สุณนฺตุ ภาสิต’นฺติ อโวจํ, ตสฺมา หิ ภูตา นิสาเมถ สพฺเพ’’ติฯ อิทํ อิมินา คาถาปเทน วุตฺตํ โหติฯ

เอวเมตํ การณํ นิโรเปนฺโต อตฺตโน ภาสิตนิสามเน นิโยเชตฺวา นิสาเมตพฺพํ วตฺตุมารทฺโธ ‘‘เมตฺตํ กโรถ มานุสิยา ปชายา’’ติฯ ตสฺสตฺโถ – ยายํ ตีหิ อุปทฺทเวหิ อุปทฺทุตา มานุสี ปชา, ตสฺสา มานุสิยา ปชาย เมตฺตํ มิตฺตภาวํ หิตชฺฌาสยตํ ปจฺจุปฏฺฐเปถาติฯ เกจิ ปน ‘‘มานุสิกํ ปช’’นฺติ ปฐนฺติ, ตํ ภุมฺมตฺถาสมฺภวา น ยุชฺชติฯ ยมฺปิ อญฺเญ อตฺถํ วณฺณยนฺติ, โสปิ น ยุชฺชติฯ อธิปฺปาโย ปเนตฺถ – นาหํ พุทฺโธติ อิสฺสริยพเลน วทามิ, อปิ ตุ ยํ ตุมฺหากญฺจ อิมิสฺสา จ มานุสิยา ปชาย หิตตฺถํ วทามิ ‘‘เมตฺตํ กโรถ มานุสิยา ปชายา’’ติฯ เอตฺถ จ –

‘‘เย สตฺตสณฺฑํ ปถวิํ วิเชตฺวา,

ราชิสโย ยชมานานุปริยคา;

อสฺสเมธํ ปุริสเมธํ,

สมฺมาปาสํ วาชเปยฺยํ นิรคฺคฬํฯ

‘‘เมตฺตสฺส จิตฺตสฺส สุภาวิตสฺส,

กลมฺปิ เต นานุภวนฺติ โสฬสิํ;

เอกมฺปิ เจ ปาณมทุฏฺฐจิตฺโต,

เมตฺตายติ กุสโล เตน โหติฯ

‘‘สพฺเพ จ ปาเณ มนสานุกมฺปี, ปหูตมริโย ปกโรติ ปุญฺญ’’นฺติฯ (อิติวุ. 27; อ. นิ. 8.1) –

เอวมาทีนํ สุตฺตานํ เอกาทสานิสํสานญฺจ วเสน เย เมตฺตํ กโรนฺติ, เอเตสํ เมตฺตา หิตาติ เวทิตพฺพาฯ

‘‘เทวตานุกมฺปิโต โปโส, สทา ภทฺรานิ ปสฺสตี’’ติฯ (อุทา. 76; มหาว. 286) –

เอวมาทีนํ สุตฺตานํ วเสน เยสุ กยิรติ, เตสมฺปิ หิตาติ เวทิตพฺพาฯ

เอวํ อุภเยสมฺปิ หิตภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เมตฺตํ กโรถ มานุสิยา’’ติ วตฺวา อิทานิ อุปการมฺปิ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ทิวา จ รตฺโต จ หรนฺติ เย พลิํ, ตสฺมา หิ เน รกฺขถ อปฺปมตฺตา’’ติฯ ตสฺสตฺโถ – เย มนุสฺสา จิตฺตกมฺมกฏฺฐกมฺมาทีหิปิ เทวตา กตฺวา เจติยรุกฺขาทีนิ จ อุปสงฺกมิตฺวา เทวตา อุทฺทิสฺส ทิวา พลิํ กโรนฺติ, กาลปกฺขาทีสุ จ รตฺติํ พลิํ กโรนฺติ, สลากภตฺตาทีนิ วา ทตฺวา อารกฺขเทวตา อุปาทาย ยาว พฺรหฺมเทวตานํ ปตฺติทานนิยฺยาตเนน ทิวา พลิํ กโรนฺติ, ฉตฺตาโรปนทีปมาลาย สพฺพรตฺติกธมฺมสฺสวนาทีนิ การาเปตฺวา ปตฺติทานนิยฺยาตเนน จ รตฺติํ พลิํ กโรนฺติ, เต กถํ น รกฺขิตพฺพา? ยโต เอวํ ทิวา จ รตฺโต จ ตุมฺเห อุทฺทิสฺส กโรนฺติ เย พลิํ, ตสฺมา หิ เน รกฺขถ; ตสฺมา พลิกมฺมกรณาปิ เต มนุสฺเส รกฺขถ โคปยถ, อหิตํ เนสํ อปเนถ, หิตํ อุปเนถ อปฺปมตฺตา หุตฺวา ตํ กตญฺญุภาวํ หทเย กตฺวา นิจฺจมนุสฺสรนฺตาติฯ

ยํกิญฺจีติคาถาวณฺณนา

[3] เอวํ เทวตาสุ มนุสฺสานํ อุปการกภาวํ ทสฺเสตฺวา เตสํ อุปทฺทววูปสมนตฺถํ พุทฺธาทิคุณปฺปกาสเนน จ เทวมนุสฺสานํ ธมฺมสฺสวนตฺถํ ‘‘ยํกิญฺจิ วิตฺต’’นฺติอาทินา นเยน สจฺจวจนํ ปยุญฺชิตุมารทฺโธฯ ตตฺถ ยํกิญฺจีติ อนิยมิตวเสน อนวเสสํ ปริยาทิยติ ยํกิญฺจิ ตตฺถ ตตฺถ โวหารูปคํฯ วิตฺตนฺติ ธนํฯ ตญฺหิ วิตฺติํ ชเนตีติ วิตฺตํฯ อิธ วาติ มนุสฺสโลกํ นิทฺทิสติฯ หุรํ วาติ ตโต ปรํ อวเสสโลกํ, เตน จ ฐเปตฺวา มนุสฺเส สพฺพโลกคฺคหเณ ปตฺเต ‘‘สคฺเคสุ วา’’ติ ปรโต วุตฺตตฺตา ฐเปตฺวา มนุสฺเส จ สคฺเค จ อวเสสานํ นาคสุปณฺณาทีนํ คหณํ เวทิตพฺพํฯ

เอวํ อิเมหิ ทฺวีหิ ปเทหิ ยํ มนุสฺสานํ โวหารูปคํ อลงฺการปริโภคูปคญฺจ ชาตรูปรชตมุตฺตามณิเวฬุริยปวาฬโลหิตงฺกมสารคลฺลาทิกํ, ยญฺจ มุตฺตามณิวาลุกตฺถตาย ภูมิยา รตนมยวิมาเนสุ อเนกโยชนสตวิตฺถเตสุ ภวเนสุ อุปฺปนฺนานํ นาคสุปณฺณาทีนํ วิตฺตํ, ตํ นิทฺทิฏฺฐํ โหติฯ สคฺเคสุ วาติ กามาวจรรูปาวจรเทวโลเกสุฯ